ปัญหาที่ทราบดี

เมื่อใช้แอปให้พิจารณาคุณลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์ และปฏิบัติตามคู่มือในเอกสารสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

ปัญหาที่ทราบดีใน Kaspersky Security Cloud

Kaspersky Security Cloud มีปัญหาที่ทราบดีดังต่อไปนี้:

• ถ้าอุปกรณ์ของคุณมีโหมดประหยัดพลังงานเปิดอยู่ คุณลักษณะต่อไปนี้จำกัดการใช้งาน:
  • ความปลอดภัย LIVE
  • อุปกรณ์ในเครือข่ายของฉัน
• ในบางกรณี อาจเป็นเรื่องยากกับการเปิดใช้งานเวอร์ชันทดลองใช้ของแอป โปนดติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค Kaspersky ถ้าคุณได้รับการแจ้งเตือน เหล่านี้: เวอร์ชันทดลองใช้งานไม่ได้ หรือไม่สามารถรับเวอร์ชันทดลองใช้
• ในบางกรณี อาจใช้เวลาพอสมควรในการเปิดใช้งานการเป็นสมัครของคุณ เพื่อให้กระบวนการเปิดใช้งานเสร็จสมบูรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และห้ามลงชื่อออกจากบัญชี My Kaspersky
• ใน Android 9 หรือรุ่นต่อมา แอปขอการอนุญาตเพื่อเข้าถึงตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่าย Wi-Fi (SSID และ BSSID) แอปใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจสอบเครือข่าย Wi-Fi และเปิด VPN กำหนดเครือข่าย Wi-Fi บ้านของคุณ และแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ แอปไม่ใช้ข้อมูลที่ได้รับเพื่อติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์

  โดยไม่มีการอนุญาตเพื่อเข้าถึงตำแหน่ง การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและอุปกรณ์ในคุณลักษณะเครือข่ายของฉันจะไม่ทำงานตามที่ตั้งใจ

  ในการให้แอปเข้าถึงตำแหน่งของอุปกรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการใช้ตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ของคุณเปิดอยู่ แล้วให้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Kaspersky Security Cloud ในบางอุปกรณ์ คุณจำเป็นต้องให้สิทธิ์การอนุญาตด้วยตนเอง

  วิธีการเปิดตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

  1. เปิดแอป การตั้งค่าของอุปกรณ์คุณ
  2. แตะตำแหน่งที่ตั้ง

     ชื่อของส่วนอาจแตกต่างกันไปตามโมเดลอุปกรณ์และเวอร์ชัน Android (เช่น การรักษาความปลอดภัย และ ตำแหน่ง)

  3. หมุนสวิตช์ไปยังตำแหน่งเปิด

  วิธีการให้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งสำหรับ Kaspersky Security Cloud

  1. เปิดแอป การตั้งค่าของอุปกรณ์คุณ
  2. แตะ แอป

     ชื่อของส่วนจัดการแอปอาจแตกต่างกันไปตามโมเดลอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ (เช่น แอปและการแจ้งเตือน)

  3. ในรายการของแอปให้หา Kaspersky Security Cloud แล้วแตะ
  4. ในส่วนการอนุญาต ให้หมุนสวิตช์ตำแหน่งไปยังตำแหน่งเปิด
• ใน Android 4 คุณต้องติดตั้งบริการ Google Play เวอร์ชันล่าสุด ไม่เช่นนั้น บางฟีเจอร์ของ Kaspersky Security Cloud อาจทำงานผิดพลาด
• ในอุปกรณ์ Meizu มีข้อจำกัดทางเทคนิคที่ป้องกันไม่ให้เปิดแอป Kaspersky อื่นๆ ในอินเทอร์เฟซของ Kaspersky Security Cloud แต่ก็ยังเปิดแยกต่างหากได้

ปัญหาที่ทราบใน Kaspersky Secure Connection

Kaspersky Secure Connection มีปัญหาที่ทราบดังต่อไปนี้

• ในบางกรณี จำนวนของปริมาณการใช้งานที่ปลอดภัยที่ใช้แล้วที่แสดงในแอปอาจแตกต่างจากจำนวนของปริมาณการใช้งานที่ปลอดภัยที่คุณใช้จริง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้การเชื่อมต่อที่มีอัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูง
• ถ้าคุณใช้เวอร์ชันมาตรฐานของ Kaspersky Secure Connection และลงชื่อเข้าใช้ My Kaspersky ปริมาณการใช้งานที่ปลอดภัยเพิ่มเป็นจำนวนมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม แอปอาจแสดงปริมาณการใช้งานที่ปลอดภัยน้อยกว่าที่คุณใช้จริง และจำนวนที่คุณใช้อาจเกินกว่าทั้งขีดจำกัดมาตรฐานและขีดจำกัดใหม่หลังจากลงชื่อเข้าใช้ ส่งผลให้คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนเมื่อถึงขีดจำกัดปริมาณการใช้งาน แม้หลังจากปริมาณการใช้งานที่ปลอดภัยที่มากขึ้นเพิ่มเป็นจำนวนมาตรฐาน
• เมื่อแอปเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เสมือน การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยอาจถูกขัดจังหวะชั่วขณะ ข้อมูลที่ส่งไม่ได้รับการป้องกันจนกว่าจะมีการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยขึ้นใหม่
• หลังจากคุณซื้อเวอร์ชันขยายของ Kaspersky Secure Connection ในบางตัวอย่าง อาจมีความล่าช้าหลายนาทีก่อนที่แอปจะสลับไปเป็นเวอร์ชันขยาย
• ถ้าอุปกรณ์ของคุณเปลี่ยนเครือข่ายเมื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยอาจถูกขัดจังหวะชั่วขณะ ข้อมูลที่ส่งไม่ได้รับการป้องกันจนกว่าจะมีการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยขึ้นใหม่
• ถ้าอุปกรณ์ของคุณทำหน้าที่เป็นจุดกระจายสัญญาณ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัย อุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับจุดกระจายสัญญาณจะไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ในการให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ให้ปิดการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยในอุปกรณ์ของคุณ
• การเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เสมือนเมื่อเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของธนาคาร ระบบการชำระเงิน เว็บไซต์สำหรับจอง โซเชียลเน็ตเวิร์ค แชต และเว็บไซต์อีเมลอาจกระตุ้นระบบป้องกันการทุจริต (ระบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินระบบออนไลน์สำหรับติดตามเบาะแสกิจกรรมทุจริต)
• VPN สามารถใช้ได้ทีละแอปเท่านั้น ถ้ามีแอปอื่นๆ ที่ใช้ VPN ในอุปกรณ์ของคุณ คุณต้องปิด VPN สำหรับแอปนี้ ก่อนเปิดการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยใน Kaspersky Security Cloud
• ใน Android 6 ถ้าอุปกรณ์ของคุณเปิดโหมดประหยัดพลังงานอยู่ จะเชื่อมต่ออย่างปลอดภัยไม่ได้
• ในบางอุปกรณ์ เช่น Xiaomi, Meizu หรือ ASUS หลังจากเริ่มอุปกรณ์ แอปจะไม่สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยขึ้นใหม่ ถ้าแอปทำงานก่อนรีสตาร์ท เพื่อเปิดใช้งานการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยในการรีสตาร์ทอุปกรณ์ ให้สิทธิ์การอนุญาตทำงานเมื่อเริ่มต้นระบบ สำหรับ Kaspersky Secure Connection ในการตั้งค่าอุปกรณ์
• ใน Android 7 แอปอาจรีสตาร์ทเมื่ออัปเดตบริการ Google Play ในกรณีนี้ การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยอาจถูกขัดจังหวะเป็นเวลาหลายนาที ข้อมูลที่ส่งไม่ได้รับการป้องกันจนกว่าจะมีการสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยขึ้นใหม่ แอปไม่สามารถแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการรีสตาร์ท
• ในบางกรณี อาจใช้เวลาพอสมควรในการเปิดใช้งานการเป็นสมัครของคุณ เพื่อให้กระบวนการเปิดใช้งานเสร็จสมบูรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และห้ามลงชื่อออกจากบัญชี My Kaspersky
• ถ้า Kaspersky Security Cloud ไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ VPN เพราะแอปอื่นกำลังใช้ VPN อยู่ แต่คุณไม่สามารถหาแอปอื่นที่ใช้ VPN ได้ ให้ลองรีสตาร์ทอุปกรณ์ ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาในระบบปฏิบัติการ Android
• ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อทำงานกับ Kaspersky Secure Connection เราไม่สามารถรับประกันความเร็วขั้นต่ำของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
• ระหว่างการโคลนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Kaspersky Secure Connection อาจทำงานไม่ถูกต้องบนอุปกรณ์ทั้งสองเครื่อง เพื่อแก้ปัญหานี้ เราขอแนะนำให้ติดตั้งแอปใหม่หรือล้างข้อมูลแอป
• ในอุปกรณ์ Xiaomi บางรุ่น Adaptive Security อาจไม่ทำงานหลังจากอัปเดตระบบปฏิบัติการ หากต้องการใช้ Adaptive Security ไปที่การตั้งค่าของอุปกรณ์ (การตั้งค่า > แอป > จัดการแอป > Kaspersky Secure Cloud > สิทธิ์อื่นๆ) และอนุญาต Kaspersky Secure Cloud ให้แสดงหน้าต่างป็อปอัปขณะทำงานในเบื้องหลัง
• ในอุปกรณ์บางเครื่องที่ใช้ Android 10 Kaspersky Secure Cloud จะไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ VPN ได้ หากเปิดใช้งานโปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ต คุณจะปิดใช้งานโปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ตได้ในการตั้งค่าของอุปกรณ์

ถ้าเชื่อมต่อกับบางเว็บไซต์หรือบริการบนเว็บไม่ได้เมื่อใช้ VPN

บางเว็บไซต์และบริการบนเว็บอาจปฏิเสธการเข้าถึงเมื่อคุณพยายามเชื่อมต่อผ่าน VPN เว็บไซต์และบริการบนเว็บอาจปฏิเสธการเข้าถึง VPN ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

• เจ้าของเว็บไซต์ต้องการให้ใช้งานเนื้อหาลิขสิทธิ์ที่เผยแพร่สำหรับบางประเทศเท่านั้น เนื่องจากมีข้อเสนอและราคาที่แตกต่างกันสำหรับประเทศอื่นๆ
• เจ้าของเว็บไซต์ต้องการให้เยี่ยมชมเว็บไซต์จากบางภูมิภาคเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การเสี่ยงโชคสำหรับภายในประเทศหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถเข้าถึงจากภูมิภาคอื่นได้
• มีบริการบนเว็บที่ให้บริการเฉพาะในบางภูมิภาคเท่านั้น (เช่น ผู้ให้บริการสื่อบางรายหรือผู้กระจายข่าว) ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย บริการบนเว็บเหล่านี้ไม่อนุญาตตัวช่วยไม่ระบุตัวตนและไม่พร้อมให้ใช้งาน เมื่อคุณใช้ VPN (หรือตัวช่วยไม่ระบุตัวตนอื่นๆ) เพื่อเข้าถึงบริการนั้นๆ
• บริการบนเว็บเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดตำแหน่งของไคลเอ็นต์ แต่ยังระบุด้วยว่าลูกค้าใช้ตัวช่วยไม่ระบุตัวตน หากตรวจพบความพยายามในการเข้าถึงบริการบนเว็บผ่านตัวช่วยไม่ระบุตัวตน การเข้าถึงบริการเว็บจะถูกบล็อก
• หากคุณไม่สามารถเข้าถึงบางเว็บไซต์หรือบริการบนเว็บโดยใช้ VPN เราขอแนะนำให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคของ Kaspersky รายงานบริการบนเว็บที่ไม่สามารถใช้งานได้และระบุตำแหน่งของบริการนั้น Kaspersky จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหานี้

ด้านบนของหน้า