เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะอาจอยู่ภายใต้การป้องกันที่ต่ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าเครือข่าย Wi-Fi ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่มีความเสี่ยง หรือรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย เมื่อคุณทำการซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย รหัสผ่านและข้อมูลลับของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็นข้อความที่ไม่ถูกเข้ารหัส แฮกเกอร์สามารถดักข้อมูลลับของคุณ ค้นพบเลขบัตรเครดิตของคุณ และเข้าถึงเรื่องการเงินของคุณ
เมื่อเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi แอปพลิเคชันจะตรวจสอบเครือข่ายนี้ ถ้าเครือข่าย Wi-Fi ไม่ปลอดภัย แอปพลิเคชันจะขอให้คุณเปิดใช้งานการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยผ่านเซิร์ฟเวอร์ที่จัดเตรียมเป็นพิเศษในภูมิภาคที่คุณระบุ ข้อมูลเว็บไซต์คือข้อมูลแรกที่ถูกถ่ายโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกจัดเตรียมแล้ว จากนั้นแอปพลิเคชันจะส่งข้อมูลเข้าสู่อุปกรณ์ของคุณผ่านการเข้ารหัสการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
หากจะใช้ส่วนประกอบ Kaspersky VPN คุณต้อง ใช้งานแอปพลิเคชัน Kaspersky VPN Secure Connection แอปพลิเคชัน Kaspersky VPN Secure Connection ได้รับการติดตั้งพร้อมกับ Kaspersky Total Security
ส่วนประกอบ Kaspersky VPN มีข้อได้เปรียบดังนี้
Kaspersky VPN สามารถใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายประเภทอื่นๆ เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายใน หรือการเชื่อมต่อผ่านโมเด็ม USB
ตามค่าเริ่มต้น Kaspersky VPN Secure Connection จะไม่ให้คุณยืนยันเพื่อเปิดใช้ VPN ถ้ามีการใช้โปรโตคอล HTTPS เพื่อเชื่อมต่อกับเว็บไซต์
การเปลี่ยนตำแหน่งเสมือนจริงเมื่อเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของธนาคาร ระบบชำระเงิน เว็บไซต์สำหรับจอง เครือข่ายสังคมออนไลน์ แชต และเว็บไซต์อีเมลอาจทำให้ไปกระตุ้นระบบป้องกันการทุจริต (ระบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินระบบออนไลน์สำหรับติดตามเบาะแสการดำเนินการทุจริต)
การใช้ Kaspersky VPN อาจได้รับการกำกับดูแลโดยกฎหมายท้องถิ่น คุณอาจใช้ Kaspersky VPN เฉพาะที่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ละเมิดกฎหมายท้องถิ่นเท่านั้น
ด้านบนของหน้า